วงการกีฬาเฮ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจลงตัว ทุ่มงบ 1,600 ล.หนุน 4 ปี เซ็นเอ็มโอยู 29 มี.ค.นี้

วงการกีฬาเฮ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจลงตัว ทุ่มงบ 1,600 ล.หนุน 4 ปี เซ็นเอ็มโอยู 29 มี.ค.นี้ 

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 มีนาคม โดยมี ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านกีฬา พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, นายไพฑูรย์ ชุติมากรกุล ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านกีฬา และผู้บริหารหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนต่างๆ มาร่วมการประชุม

โดยมีวาระสำคัญเรื่องการพิจารณาหลักเกณฑ์ และวิธีการในการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ตามที่ คณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์ และกลั่นกรองการสนับสนุนสมาคมกีฬา และคณะอุนกรรมการพิจารณาจัดการการสนับสนุนสมาคมกีฬาจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ได้ดำเนินการกลั่นกรองและจับคู่สมาคมกีฬากับหน่าวยงานรัฐวิสาหกิจ มาตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ปี 2566 จนได้บทสรุปออกมาดังนี้ หน่วยงานของรัฐวิสาหกิจ ที่จะสนับสนุนสมาคมกีฬา มีทั้งสิ้น 15 หน่วยงาน พร้อมด้วยภาคเอกชนอีก 13 บริษัท จะให้การสนับสนุนตลอด 4 ปี และยังมีการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้การสนับสนุนสมาคมกีฬาอีก 39.9 ล้านบาท รวมเป็นเงินประมาณ 1,600 ล้านบาท โดยจะสนับสนุน 40 สมาคมกีฬา

ผศ.พิมลเปิดเผยหลังการประชุมว่า จากการประชุมโครงการ 1 กีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ซึ่งมีการสรุปกับหน่วยงานต่างๆ จะให้การสนับสนุนสมาคมกีฬามาทั้งหมดเท่าไร ให้สมาคมกีฬาไหนบ้าง ได้ข้อสรุปกันในวันนี้ โดยเกือบทุกสมาคมกีฬาจะได้รับการสนับสนุนจะได้การช่วยเหลือจากโครงการนี้ เป็นจำนวนเงินกว่า 1,600 ล้านบาท ตลอด 4 ปี หรือประมาณ 400 ล้านบาทต่อปี ซึ่งแต่ละสมาคมกีฬาจะได้เงินสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจไม่เท่ากันอยู่บนเงื่อนไขที่ต่างกัน ตามข้อกำหนด ทั้งในเรื่องของผลงานที่ผ่านมา ความนิยมของกีฬา ความเป็นสากลของกีฬา โดยในวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม จะมีการเซ็นบันทึกช่วยจำ(เอ็มโอยู) กันระหว่างหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน กับ สมาคมกีฬาต่างกันที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรีมาประธาน