ศึก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2023/24 ใกล้ถึงบทสรุปเต็มทีหลังจากลงฟาดแข้งกันมาร่วม 10 เดือนเต็ม ๆ ซึ่งในช่วงสุดท้ายของซีซั่นแบบนี้เราคงได้เห็นกันแล้วว่าตลอดปีที่ผ่านมาทีมใดประสบความสำเร็จหรือทีมใดล้มเหลว โดยเฉพาะในเรื่องของนักเตะ ที่นับตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์มาจนถึงตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมาแต่ละสโมสรต่างทุมเงินมากมายเพื่อดึงตัวนักเตะเข้ามาเสริมทัพมูลค่ารวมกว่า 2,500 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
แน่นอนว่าย่อมมีคนที่ทำผลงานได้ดีสมราคา รวมถึงคนที่แย่กว่าเม็ดเงินที่จ่ายไป วันนี้เราจึงอยากพาแฟน ๆ 90min ย้อนกลับไปชมกันว่าในฤดูกาลที่ผ่านมานั้นมีดีลใดบ้างที่คุ้มค่ามากที่สุดกับ
หลังจากปีกชาวอังกฤษวัย 23 ปีรายนี้ไม่สามารถสอดแทรกเข้าไปมีบทบาทกับ เชลซี ได้ตลอดช่วง 2-3 ปีหลัง ทำให้เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ด้วยค่าตัวเพียง 3 ล้านปอนด์ โดยช่วงแรก ๆ ก็ยังไม่ได้รับโอกาสมากนัก กระทั่งครึ่งฤดูกาลหลังเจ้าตัวกลายเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมลุ้นหนีตกชั้นกับผลงาน 7 ประตูจาก 27 เกมในฤดูกาลนี้
ปีกชาวเนเธอร์แลนด์สวัย 25 ปีที่ไม่สามารถแจ้งเกิดกับ โรมา ก่อนจะย้ายมาค้าแข้งในอังกฤษตามรอยคุณพ่อที่เป็นนักเตะชื่อดังอย่าง แพทริค ไคลเวิร์ต ซึ่งปีแรกของเขาในเมืองผู้ดีต้องบอกว่าไม่ธรรมดากับการเป็นกำลังหลักบริเวณริมเส้นให้ บอร์นมัธ แถมยิงไปแล้วถึง 9 ประตูในฤดูกาลนี้
กองหลังชาวฮอลแลนด์ที่ สเปอร์ส ไปคว้าตัวมาจาก โวล์ฟบวร์ก ในช่วงซัมเมอร์ ก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักในแดนหลังให้กับทีมได้แทบจะในทันที แม้จะมีช่วงที่บาดเจ็บไปบ้าง แต่หลังจากนั้นก็ยังคงกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างเหนียวแน่น แถมเจ้าตัวยังถูกบันทึกสถิติว่าเป็นนักเตะที่วิ่งด้วยความเร็วสูงที่สุดใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้อีกด้วย น่าเสียดายที่ท้ายฤดูกาลฟอร์มของทีมแผ่วลงไปจนมีโอกาสสูงที่จะหลุดท็อป 4 ในที่สุด
ตัวรุกวัย 21 ปีกลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายของ อูไน เอเมรี ที่ดึงเข้ามาเติมเต็มในช่วงเดือนมกราคมพร้อมกับทำผลงานโดดเด่นยึกตัวหลักภายในทีมได้แทบจะในทันทีกับตำแหน่งตัวปั้นเกมในแดนหน้าที่ครองบอลเหนียวแน่นแถมยังแข็งแกร่งเกินวัยจนหลายคนคาดว่าฤดูกาลหน้าคงจะเป็นปีทองของเขากับทีมอย่างแน่นอน
ลูตัน ทาวน์ เรียกได้ว่าได้ทั้งของถูกและดีอยู่ในคน ๆ เดียวกับการคว้า รอสส์ บาร์คลีย์ กองกลางวัย 30 ปีกลับมาจาก นีซ แบบฟรี ๆ ไม่มีค่าตัว ซึ่งหลายคนคาดว่าเขาคงจะหมดไฟไปแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ายังมีดีกับบทบาทการเป็นตัวปั้นเกมที่ทีมจะขาดไปไม่ได้ พร้อมกับทำไปแล้วถึง 5 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้
ตัวรุกที่โยกจาก เชลซี มาอยู่กับ อาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้ โดยช่วงแรกเจ้าตัวยังต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับต้นสังกัดใหม่ แต่หลังจากเริ่มปรับจูนกันลงตัวเขาก็กลายมาเป็นกองหน้าตัวความหวังของทีมไปเป็นที่เรียบร้อยกับผลงาน 13 ประตูกับ 6 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้
ปีกความเร็วสูงของ เวสต์แฮม ที่ย้ายจาก อาแจ็กซ์ เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระในแดนหน้าของ โบเวน ได้เป็นอย่างดี แถมยังมีความเร็วความแข็งแกร่งไปกับบอลได้อย่างเนียนตาจนกลายมาเป็นปีกที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของฤดูกาลด้วยผลงาน 13 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ในปีแรกที่มาค้าแข้งในเมืองผู้ดี
กองกลางชาวอาร์เจนตินาที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในนามทีมชาติและแจ้งเกิดกับ ไบรท์ตัน ได้สำเร็จ จนโดน ลิเวอร์พูล ไปสอยตัวมาร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากปรับจูนได้กับตำแหน่งหมายเลข 8 เขาก็เฉิดฉายกับบทบาทการปั้นเกมแดนกลางที่นอกจากจะจ่ายบอลฉลาดแถมยังยิงไกลได้เฉียบคมอีกด้วย
เรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จเดียวของ เชลซี ในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้กับการเซ็นสัญญาเพลย์เมคเกอร์ดาวรุ่งจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ ก่อนจะค่อย ๆ ก้าวขึ้นมามีบทบาทกับทีมและกลายมาเป็นเดอะแบกของ สิงห์บลู การันตีด้วยผลงาน 24 ประตูกับ 13 แอสซิต์รวมทุกรายการให้กับทีมในปีนี้
แม้จะเป็นราคาทีสูงระดับสถิตินักเตะอังกฤษ แต่ต้องบอกเลยว่าสำหรับ อาร์เซนอล แล้วคุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์กับผลงานอันยอดเยี่ยมที่สามารถยกระดับเกมแดนกลางจนกลายมาเป็นทีมหัวแถวของยุโรปแถมยังมีดีทั้งรุกและรับยิ้งก็ได้จ่ายก็แม่นทำไปแล้ว 7 ประตูกับ 10 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้ นั่นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ใคร ๆ ก็ต่างยกให้เขาเป็นดีลที่ดีที่สุดประจำฤดูกาลนี้ไป
ต้นฉบับของบทความนี้เผยแพร่ภายใต้ 90min.com/th ที่ชื่อ จัดอันดับ 10 ดีลยอดเยี่ยมแห่งศึก พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ฤดูกาล 2023/24 - RANKED.
2024-05-06T10:18:35Z dg43tfdfdgfd